น้ำยาทำความสะอาดที่ห้ามใช้ร่วมกัน ไม่ระวัง อาจะถึงตายได้!
หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าน้ำยาทำความสะอาดในชีวิตประจำวันของเราที่ช่วยทำความสะอาดนั้น แต่ละชนิดจะมีความสามารถในการทำความสะอาดที่แตกต่างกันออกไป บางคนมีความคาดหวังว่าการผสมน้ำยาทำความสะอาดต่างชนิดจะให้ผลลัพธ์ในการทำความสะอาดที่ดีขึ้นและรวดเร็ว แต่หารู้ไม่ว่าวิธีแบบนี้นี่แหละที่อาจส่งผลอันตรายถึงชีวิตได้ เพราะสารบางชนิดในน้ำยาทำความสะอาดแต่ละชนิดที่ผสมกันไปนั้น จะกลายเป็นสารพิษได้และยังทำให้น้ำยาความสะอาดมีประสิทธิภาพลดลงอีกด้วย
น้ำยาทำความสะอาดตัวไหนบ้างที่เมื่อใช้ร่วมกันแล้วจะเกิดอันตราย มาดูกันเลย
-
- น้ำยาล้างห้องน้ำ + น้ำยาฟอกผ้าขาว
น้ำยาล้างห้องน้ำมีฤทธิ์เป็นกรด เมื่อนำมาผสมกับน้ำยาฟอกผ้าขาวจะเกิดก๊าซคลอรีนและสารพิษที่ทำให้เกิดอาการระคายเคืองตา จมูก และลำคอ รวมถึงมีอาการไอและหายใจติดขัด ถ้าหากได้รับในปริมาณที่มากเกินไปอาจจะทำให้ถึงขั้นเสียชีวิตได้
-
- แอมโมเนีย + น้ำยาฟอกผ้าขาว
แอมโมเนียและน้ำยาฟอกผ้าขาว เป็นสารทำความสะอาดที่คนทั่วไปใช้อยู่แล้ว แต่ไม่ควรนำมาผสมกันเด็ดขาด เพราะจะทำให้เกิดก๊าซพิษที่ชื่อว่า คลอรามีน (Chloramine) ซึ่งทำให้เกิดอาการระคายเคืองตา จมูก และลำคอได้ หรือหากรุนแรงกว่านั้นก็อาจจะส่งผลให้เกิดอาการเจ็บหน้าอก ไอ และอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้
-
- รับบิ้งแอลกอฮอล์ + น้ำยาฟอกผ้าขาว
รับบิ้งแอลกอฮอล์ (Rubbing Alcohol) หรือแอลกอฮอล์ที่ใช้สำหรับฆ่าเชื้อ หากนำมาผสมกับน้ำยาฟอกผ้าขาวที่มีโซเดียมไฮโปคลอไรต์ (Sodium Hypochlorite) จะสร้างคลอโรฟอร์ม (Chloroform) ที่มีกลิ่นฉุน หากสูดดมเข้าไปแม้ในปริมาณเพียงเล็กน้อย ก็อาจทำให้เกิดอาการเวียนหัว คลื่นไส้ หมดสติ และหากมีสารชนิดนี้เข้าไปสะสมในร่างกายปริมาณมากอาจส่งผลถึงแก่ชีวิตได้ นอกจากนี้ไม่ควรนำรับบิ้งแอลกอฮอล์ไปผสมกับน้ำยาทำความสะอาดบ้านชนิดอื่น ๆ ด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นน้ำยาเช็ดกระจกหรือน้ำยาล้างห้องน้ำ
-
- น้ำยาล้างท่อระบายน้ำต่างยี่ห้อรวมกัน
บางครั้งเวลาที่ใช้น้ำยาล้างท่อระบายน้ำยี่ห้อหนึ่งไปแล้ว แต่ท่อก็ยังอุดตันอยู่ดี หลายคนจึงเลือกที่จะใช้น้ำยาล้างท่อยี่ห้อใหม่ผสมกับยี่ห้อเดิมเพราะคิดว่ามันจะเพิ่มประสิทธิภาพในการกำจัดสิ่งสกปรกที่ค้างอยู่ในท่อให้ดีขึ้น ซึ่งนั่นเป็นวิธีที่ผิดและอันตรายอย่างมาก เพราะน้ำยาทำความสะอาดท่อระบายน้ำแต่ละยี่ห้อมีส่วนผสมที่แตกต่างกัน หากนำมาใช้ด้วยกันจะทำให้เกิดก๊าซคลอรีน และอาจทำให้เกิดการระเบิดได้
-
- น้ำยาขจัดคราบเชื้อรา + น้ำยาฟอกผ้าขาว
น้ำยาขจัดคราบเชื้อราทั่วไปมีฤทธิ์เป็นกรด คล้ายกับน้ำส้มสายชู เมื่อรวมกับน้ำยาฟอกผ้าขาว จะทำให้เกิดปฏิกิริยาเคมีและเกิดเป็นก๊าซคลอรีนที่เป็นอันตราย ส่งผลให้เกิดการระคายเคืองต่อดวงตา จมูก คอ และปอดได้
-
- น้ำยาล้างจาน + น้ำยาฟอกผ้าขาว
น้ำยาล้างจานบางยี่ห้อที่มีขายทั่วไปอาจมีส่วนผสมของแอมโมเนีย เพื่อเพิ่มพลังการทำขจัดคราบสกปรก ทำให้ล้างจานได้สะอาดมากยิ่งขึ้น หากนำมาใช้ร่วมกับน้ำยาฟอกผ้าขาว จะเกิดปฏิกิริยาเคมีและก๊าซพิษที่อาจะเป็นอันตรายกับร่างกายได้
-
- ผงซักฟอก + น้ำยาฆ่าเชื้อโรค
ความเข้าใจผิดของหลายคนที่คิดว่า การผสมน้ำยาฆ่าเชื้อโรคลงไปในผงซักฟอก จะช่วยทำให้เสื้อสะอาดปราศจากเชื้อโรคได้นั้น ความจริงแล้วการผสมน้ำยาฆ่าเชื้อโรคกับผงซักฟอกจะผลลัพธ์ตรงกันข้าม เพราะน้ำยาฆ่าเชื้อจะหมดประสิทธิภาพและไม่สามารถช่วยกำจัดเชื้อโรคได้
-
- น้ำยาเช็ดกระจก + น้ำยาฟอกผ้าขาว
น้ำยาเช็ดกระจกบางยี่ห้อมีส่วนผสมของแอมโมเนีย เมื่อนำมาผสมกับน้ำยาฟอกผ้าขาว ที่มีโซเดียมไฮโปคลอไรท์ (Sodium Hypochlorite) เป็นส่วนผสมหลัก จะเกิดเป็นก๊าซพิษคลอรามีน ซึ่งเป็นอันตรายต่อร่างกาย
-
- น้ำยาล้างท่อระบายน้ำ + น้ำยาฟอกผ้าขาว
น้ำยาทำความสะอาดท่อระบายน้ำที่มีฤทธิ์เป็นกรด เมื่อผสมกับน้ำยาฟอกผ้าขาว จะทำให้เกิดก๊าซคลอรีน ซึ่งเป็นอันตรายต่อดวงตา จมูก และปอดได้
น้ำยาทำความสะอาดแต่ละชนิดนั้นมีความสามารถในการทำความสะอาดแต่ละประเภทที่ให้ผลลัพธ์ได้ดีอยู่แล้ว จึงไม่แนะนำให้ไปผสมกับน้ำยาอื่นๆ เพื่อป้องกันอันตรายแก่ร่างกายและใช้น้ำยาทำความสะอาดได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ที่สำคัญที่สุด อย่าลืมอ่านฉลากก่อนใช้งานทุกครั้งและสวมถุงมือเพื่อป้องกันด้วยนะ
ขอขอบคุณข้อมูลอ้างอิง
ที่มา : https://www.ofm.co.th/blog/dangers-of-cleaning-products
